Pearl Richs

ถ้าแบ่งตามรูปร่าง และรูปทรง สามารถจัดแบ่งได้ดังนี้

​

​​

​

​

​

​

​

​

• ทรงกลม : เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของไข่มุกที่มีความสมมาตรสวยงาม มีความนิยมมากที่สุด และจัดว่าเป็นลำดับแรก ๆ ที่ถูกเลือกมาเป็นเครื่องประดับทุกรูปแบบ ที่สำคัญยังมีความต้องการสูงและราคาแพง ทรงกลมจึงเป็นรูปทรงที่คลาสสิคที่สุด

​

​

​

​

​

​

​

• ทรงเกือบกลม : รูปทรงเกือบกลม จะมีความแบนด้านข้าง หากมองจากด้านหน้าของไข่มุกรูปทรงจะเป็นทรงกลม การสังเกตุจะมองด้านข้างของมุกจะเห็นรูปทรงชัดเจนของมุก แม้รูปทรงไม่ได้สมมาตร แต่นำการสวมใส่ก็เพิ่มเสน่ห์ได้ไม่น้อย

​

​

​

​

​

​

​

• ทรงกระดุม : ทรงกระดุมมีรูปทรงที่ไม่ได้ตายตัวมากนัก ซึ่งจะมีรูปทรง อยู่ 2 ลักษณะ คือรูปทรงค่อนไปทางหยดน้ำปลายนูน หรือจะเรียกกัน ทรง Button และอีกแบบคือทรงกระดุมหรือที่นิยมเรียกกันในวงการคือทรงซาลาเปา ซึ่งเป็นรูปทรงที่ไม่สมบูรณ์ 

​

​

​

​

​

​​

​

• ทรงบารอค : ไข่มุกทรงบารอคเป็นรูปทรงที่มีความอิสระแต่ละเม็ดจะไม่คล้ายคลึงกันหรือมีความบิดเบี้ยวตามธรรมชาติของแต่ละเม็ด เป็นไข่มุกที่มีรูปทรงศิลปะ และมีเสน่ห์เหลือล้น

​

​

​

​

​

​

​

• ทรงหยดน้ำ : รูปทรงหยดน้ำมีความเรียวยาว หรือรูปทรงไข่ ลักษณะของรูปทรงมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความสั้นยาวของแต่ละเม็ด บางก็มีปลายแหลม นิยมนำไปเป็นจี้ หรือต่างหู ตามความเหมาะสมมุก ซึ่งมีเสน่ห์ไปอีกแบบ

​

​

​

​

​

​

​

​

• ทรงเคชิ : รูปทรงอิสระ บิดเบี้ยวและมีมุมเหลี่ยมของมุก รูปทรงมีทั้งสั้นและยาว ไม่มีความตายตัว มีความธรรมชาติสูงมาก นิยมในกลุ่มที่รักมุกในรูปทรงแปลก ๆ เรียกได้ว่าเป็นอีกรูปทรงที่มีความเก๋ที่สุด

 

และถ้าแบ่งตามที่มา ไข่มุกของ Pearl Richs ใช้ไข่มุกจากแหล่งที่มาชั้นดี ดังนี้ค่ะ

 

• อโกย่า (Akoya) : เป็นมุกทรงกลมที่มีความเงาและแวววาวมาก ขนาดของไข่มุกไม่ใหญ่มาก ซึ่งประกอบด้วยสีขาว สีครีม และฟ้าอ่อน ซึ่งเป็นไข่มุกสายพันธ์ในมหาสมุทรของประเทศญี่ปุ่น มีน่ารักกระทัดรัด มีขนาดตั้งแต่ 3-10 มิลที่ Pearl Richs นำมาใช้ เรียกเสน่ห์ในการสวมใส่ได้ไม่น้อย

• มุกทะเลใต้ (South Sea) : เป็นไข่มุกที่ถูกขนานนามว่าเป็นราชินีแห่งสายน้ำ ที่มีความสวย และเงาวาวสูง มีทั้งสีขาว สีเงิน สีครีม และสีทอง แชมเปญ ขนาดของไข่มุกที่เราพบมีตั้งแต่ 7-20 มิล ขนาดที่นิยมมากที่สุด เฉลี่ยอยู่ที่ 12-13 มิล นอกจากเป็นเครื่องประดับที่มีราคาสูงแล้ว ยังเป็นของสะสมที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น และแหล่งที่พบมากที่สุดคือ ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เป็นต้น 

• มุกตาฮิติ (Tahitian) : เป็นไข่มุกที่มีหลากสีสันโดยส่วนมากจะเป็นโทนสีเข้มที่พบในหอยนางรมดำ มีความเงาวาวกับลัลเตอร์ที่น่าทึ่ง เมื่อเปล่งประกายความเงาวาวและดึงดูดเสน่ห์จนต้องหลงใหล เรียกได้ว่าเป็นไข่มุกที่มีความสง่างามเหนือกาลเวลา สีของตาฮิติ มีตั้งแต่ สีเทา สีฟ้า สีเขียว สีเงิน สีดำ เป็นอีกคอลเลคชั่นที่ต้องสะสม เป็นที่นิยมของคนรักมุกของนักสะสมที่ชอบความสวยอมตะ ขนาดของไข่มุก มีตั้งแต่ 7-22 มิล ขนาดที่นิยมมากที่สุด 10-14 มิล แหล่งที่พบมากในเกาะฮิติที่เป็นหมู่เกาะที่ใหญ่ที่สุดใจหมู่เกาะเฟรนซ์พินิเซีย 

• มุกน้ำจืด (Fresh water) : เป็นไข่มุกที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ ซึ่งมีหลายเกรดให้เลือกสรร โดยราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพของไข่มุก โดยเฉพาะไข่มุกคุณภาพสูงก็เทียบเท่าได้กับไข่มุกทะเลใต้หรือ South Sea เลยทีเดียว และไข่มุกน้ำจืดสีสันสวยไม่แพ้ไข่มุกชนิดอื่น ๆ อาทิ สีขาว สีครีม สีม่วง สีพีช สีมพู เป็นต้น บางสายพันธ์ของไข่มุกน้ำจืดมีสีหายากและเป็นที่นิยมของนักสะสม โดยเฉพาะไข่มุก เอดิสัน ที่มีลัสเตอร์แวววาวมีเสน่ห์เหลือล้น กับโทนสีเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร  ขนาดของไข่มุกมีตั้งแต่ 2-25 มิล และเป็นไข่มุกที่นิยมมากที่สุดทุกขนาด แหล่งที่พบมากที่สุดคือ ประเทศจีนใน มณฑลเจ้อเจียง มณฑลหูเป่ย มณฑลหูหนาน มณฑลเจียงซี และยังมีในแถบเอเชีย อาทิ ประเทศฟิลิปปินส์ พม่า อินโดนีเซีย เป็นต้น